ประวัติหลวงปู่มหาเจิมปัญญาพโลวัดสระมงคลตำบลสระสี่มุมอำเภอกำแพงแสนจังหวัดนครปฐม
ขอบคุณภาพ:http://www.gorn9.99wat.com/ |
ประวัติพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองนครปฐมมาเล่าให้ฟังนั่นก็คือประวัติของหลวงปู่มหาเจิมปัญญาพโลหรือพระครูภาวนาปัญญาดิลกอดีตเจ้าอาวาสวัดสระมงคลอำเภอกำแพงแสนจังหวัดนครปฐมพร้อมด้วยประสบการณ์วัตถุมงคลของท่านมาเล่าให้ฟังกันครับสำหรับหลวงปู่มหาเจิมนั้นนามเดิมชื่อเจิมวรรณะโมลีเกิดวันที่ 12 ตุลาคมพุทธศักราช 2459 ตรงกับวันพฤหัสบดีแรม 1 ค่ำเดือน 11 ปีมะโรงบ้านหนองแคนตำบลเมืองใหม่อำเภอราชสาส์นจังหวัดฉะเชิงเทรามีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 6 คนทุกคนเสียชีวิตหมดแล้วประชาเป็นสามเณรกับหลวงพ่อทองเจ้าอาวาสวัดแสนภุมราวาสเมื่อปีพุทธศักราช 2475 และนายบัญญัติเป็นธรรมยุตในปีถัดมากับเจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์จันทร์สิริจันโทวัดบรมนิวาสกรุงเทพฯ 2480 หลวงปู่มหาเจิมจนได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุบวรพุทธศาสนาโดยมีท่านสมเด็จพระมหาวีรวงศ์อ้วนติสโสวัดบรมนิวาสเป็นพระอุปัชฌาย์และมีพระครูพิพิธวิหารการขำเป็นพระกรรมวาจาจารย์พระครูวินัยธรค้ำเป็นพระอนุสาวนาจารย์และตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2484 หลวงปู่เริ่มเดินทางออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมเพื่อแสวงหาทางหลุดพ้นตามรอยขององค์พระบรมศาสดาการโดยผู้จุดประกายทำอันสว่างไสวให้ลุกโชนขึ้นภายในใจหลวงปู่มหาเจิมนั้นก็คือหลวงปู่มั่นภูริทัตโตพระอาจารย์ใหญ่สายพระป่ากรรมฐานตั้งแต่ครั้งหลวงปู่ยังเป็นสามเณรเจิมหลวงปู่มั่นภูริทัตโตแสดงธรรมที่วัดบรมนิวาสสามเณรเจิมก็รู้สึกประทับใจอิ่มอกอิ่มใจดื่มด่ำในรสพระธรรมยิ่งคิดยิ่งอยากปลีกวิเวกออกไปค้นหาหนทางพ้นทุกข์เพราะมองเห็นแต่ความวุ่นวายของสังคมกรุงเทพสับสนอัดเห็นคนเดินกันปลอดภัยเห็นความทุกข์จากการเวียนว่ายตายเกิดเต็มไปด้วยความทุกข์แม้บางคนจะประสบความสำเร็จในชีวิตทางโลกมีเงินมีทองมีฐานะในยศฐาบรรดาศักดิ์แต่คนเหล่านั้นก็ยังมานั่งปรับทุกข์กับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์หลวงปู่เห็นบ่อยๆเสมอเสมอหลวงปู่มหาเจิมเคยไปปฏิบัติธรรมอยู่ด้วยกันล้วนแล้วแต่เป็น 10 สานุศิษย์สายหลวงปู่มั่นภูริทัตโตทั้งนั้นอาทิเช่นหลวงปู่เทศน์เทศน์รังสีหลวงปู่สิมพุทธาจาโรหลวงปู่แว่นธนปาโลหลวงปู่มหาปิ่นปัญญาพโลหลวงปู่มหาเนียมสุวโจหลวงปู่คำพองติสโสหลวงปู่เจี๊ยะจุนโทหลวงปู่หลอดปโมทิโตหลวงพ่อน้อยเกสโรเป็นต้น ออกจากใจแท้ๆท่านเขียนให้ลูกศิษย์ตัวย่อว่าปล่อยวางวางเบาเอาหนักท่านบอกว่าใครทำได้ถึงตรงนี้ผลทุกอย่างแน่นอนหลวงปู่มหาเจิมปัญญาพโลละสังขารเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนพ.ศ 2555 เวลา 10:00 น อายุ 96 ปี 75 พรรษาพระราชทานเพลิงไปเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2556 เรื่องพุทธคุณของเหรียญหลวงปู่มหาเจิมวัดสระมงคลนั้นโดยเฉพาะในแวดวงตำรวจมีผู้ต้องหาหลายรายในเขตจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงโดยเฉพาะผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทสุดท้ายจบด้วยการใช้อาวุธปืนยิงกันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อผู้ต้องหาที่ถูกยิงหลายรายเสื้อมีรอยทะลุจากลูกกระสุนแต่ผิวหนังไม่เป็นอะไรเลยและไม่ใช่ครั้งเดียวแต่มีเรื่องเล่าจากตำรวจในพื้นที่หลายสนนี่เป็นเหตุผลและเหตุผลเดียวที่ทำให้นายพิษณุภาณุมาศหรือเจ้าของฉายานกนครปฐมสายตรงพระเครื่องหลวงปู่มหาเจิมปัญญาพโลกล้าที่จะเก็บและไล่เช่าบูชาพระเครื่องและเหรียญของพระครูภาวนาปัญญาดิลกหรือหลวงปู่มหาเจิมปัญญาพโลประธานสงฆ์วัดสระมงคลบ้านหนองโพธิ์ตำบลสระสี่มุมจังหวัดนครปฐมนครปฐมบอกว่ามีผู้ต้องหาหลายรายในเขตจังหวัดนครปฐมและใกล้เคียงหลายครั้งที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทสุดท้ายจบด้วยการใช้อาวุธปืนยิงกันซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อผู้ต้องหาที่ถูกยิงหลายรายเสื้อมีรอยจากกระสุนแต่ผิวหนังไม่เป็นอะไรโดยในคอแขวนเหรียญหลวงปู่มหาเจิมเพียงเหรียญเดียวเท่านั้นทั้งนี้มีเรื่องเล่าจากตำรวจในพื้นที่หลายคดีหนึ่งที่ทำให้เหรียญรุ่นนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือคดีของสนบางกอกน้อยเป็นคดีที่ตำรวจกำลังเข้าจับกุมนายบุญฤทธิ์หรือคิ้วร่วงไพรอายุ 22 ปีสมาชิกแก๊งโอรสแล้วก็มีการยิงต่อสู้กันถึงกับตำรวจเสียชีวิตใครจะคิดว่าหลังจากตำรวจจับกุมคิ้วร่วงถ่ายได้แล้วปรากฏว่ามีตำรวจจากสน. ดังกล่าวเดินทางไปเช่าเหรียญหันข้างหลวงปู่มหาเจิมย่างเกาหลีล่าสุดประสบการณ์ตรงจากเพื่อนบ้านเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2558 เวลา 17:00 น พลทหารธวัชชัยบุญช่วยชาวดอนตูมจังหวัดนครปฐมถูกปืนขนาด 9 มมยิงบริเวณหน้าท้องแต่สภาพบาดแผลเป็นเพียงแค่รอยถลอกเท่านั้นทันทีที่ทราบเหตุได้เดินทางไปพบและสิ่งแรกที่ทำคือขอดูว่ามีพระอะไรดีปรากฏว่าพลทหารฉัตรชัยแขวนเหรียญรูปไข่หลวงปู่มหาเจิมอดีตเจ้าอาวาสวัดสระมงคลเพียงเหรียญเดียวเท่านั้นพร้อมกันนี้นครปฐมจังบอกว่าเหรียญหลวงปู่มหาเจิมปัญญาพโลรุ่นปัญญาบารมีเป็นเหรียญที่ออกในช่วงเดือนตุลาคม 2549 เนื่องในงานวันเกิดครบรอบ 90 ปีประกอบด้วยเหรียญรูปเหมือนลอยองค์เหรียญรูปไข่หันข้างเหรียญเสมาล็อกเก็ตรูปเหมือนหลวงปู่ยืนถือไม้เท้าและพระปิดตาเนื้อผงทั้งนี้ท่านได้เมตตาต่อลูกศิษย์เป็นกรณีพิเศษโดยมีข้อแม้ว่าอนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจากนั้นให้ยกเลิกโดยเด็ดขาดหลวงปู่มหาเจิมละสังขารอย่างสงบเมื่อเวลา 10:45 น ในวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน 2555 หลังจากประกอบพิธีเผาศพแล้วเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งอัฐิของหลวงปู่นั้นกลายเป็น พระธาตุ
ขอบคุณภาพ:http://www.gorn9.99wat.com/ |