ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

เหรียญพระพุทธโสธรรุ่นปี 2460

  เหรียญพระพุทธโสธรรุ่นปี 2460 วัดหลวงพ่อโสธร” และ “หลวงพ่อโสธร” สำหรับพุทธศาสนิกชนคนไทยทุกคนแล้วจะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีและมีความศรัทธาเลื่อมใสสืบทอดกันต่อๆ มา ด้วยความเชื่อโบราณที่ว่าถ้าลูกหลานเกิดไม่สบายป่วยไข้หรือเลี้ยงยาก ผู้หลักผู้ใหญ่ก็มักพาไปวัดหลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา เพื่อถวายให้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อโสธร เด็กก็จะหายจากการป่วยไข้กระเสาะกระแสะ หายงอแง และเสียงง่ายขึ้นครับผม “หลวงพ่อพระพุทธโสธร” ประดิษฐาน ณโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปแสดงปางสมาธิขัดราบ พระเนตรเนื้อแบบสมัยลานช้าง ความสูง 1.98 เมตร หน้าตักกว้าง 1.65เมตร หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญมากองค์หนึ่งของประเทศไทยทีเดียว ความเป็นมาของ “พระพุทธโสธร” นั้น มีเรื่องเล่าขานเป็นตำนานว่า...เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงครั้งที่ 2 นั้น กองทัพพม่าได้กระทำการอุกอาจต่อพระพุทธรูปของไทย เพื่อจะเอาโลหะมีค่าต่างๆ จากองค์พระกลับพม่า ราษฎรพากันหวาดวิตกจึงพยายามปกป้องรักษาโดยน้ำโคลนบ้างรักดำบ้างไปพอกทาองค์พระ ไว้ให้ดูไม่สวยงามไม่มีค่าจะได้ไม่ถูกทำลายบางคนก็อาราธนาลงแพไม้ไผ่แล้วปล่อยให้ลอยตามน้ำไปดีกว่าจะถ

เหรียญหลวงปู่มหาเจิมรุ่นปัญญาบารมี

 ประวัติหลวงปู่มหาเจิมปัญญาพโลวัดสระมงคลตำบลสระสี่มุมอำเภอกำแพงแสนจังหวัดนครปฐม ขอบคุณภาพ:http://www.gorn9.99wat.com/ ประวัติพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองนครปฐมมาเล่าให้ฟังนั่นก็คือประวัติของหลวงปู่มหาเจิมปัญญาพโลหรือพระครูภาวนาปัญญาดิลกอดีตเจ้าอาวาสวัดสระมงคลอำเภอกำแพงแสนจังหวัดนครปฐมพร้อมด้วยประสบการณ์วัตถุมงคลของท่านมาเล่าให้ฟังกันครับสำหรับหลวงปู่มหาเจิมนั้นนามเดิมชื่อเจิมวรรณะโมลีเกิดวันที่ 12 ตุลาคมพุทธศักราช 2459 ตรงกับวันพฤหัสบดีแรม 1 ค่ำเดือน 11 ปีมะโรงบ้านหนองแคนตำบลเมืองใหม่อำเภอราชสาส์นจังหวัดฉะเชิงเทรามีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 6 คนทุกคนเสียชีวิตหมดแล้วประชาเป็นสามเณรกับหลวงพ่อทองเจ้าอาวาสวัดแสนภุมราวาสเมื่อปีพุทธศักราช 2475 และนายบัญญัติเป็นธรรมยุตในปีถัดมากับเจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์จันทร์สิริจันโทวัดบรมนิวาสกรุงเทพฯ 2480 หลวงปู่มหาเจิมจนได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุบวรพุทธศาสนาโดยมีท่านสมเด็จพระมหาวีรวงศ์อ้วนติสโสวัดบรมนิวาสเป็นพระอุปัชฌาย์และมีพระครูพิพิธวิหารการขำเป็นพระกรรมวาจาจารย์พระครูวินัยธรค้ำเป็นพระอนุสาวนาจารย์และตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2484 หลวงปู่เริ่มเดินทางออกธุดงค์

พระกริ่งจปร 2513 วัดราชบพิธ

 พระกริ่งจปร 2513 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร กรุงเทพฯ พระกริ่งจปร จัดสร้างขึ้นในปีพศ 2513 พระกริ่งชุดนี้มีพิธีปลุกเสกใหญ่มากๆมีพระเกจิอาจารย์มากมายครับท่านถึง 108 รูปโดยเฉพาะมีพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นมาเข้าร่วมพิธีนี้อีกด้วยซึ่งยากจะหาวิธีอื่นๆในยุคหลังๆทำได้ พระกริ่งรุ่นนี้มีประสบการณ์ต่อผู้ที่นำไปบูชาจนเป็นข่าวครึกโครม เคยมีคนเอาไปลองยิงปรากฏว่าปืนแตกเลย พระกริ่ง รุ่นนี้ออกแบบโดยนายช่างเกษมมงคลเจริญสร้างในปีพศ 2513 เนื่องใน วาระครบ 100 ปีวัดราชบพิธ พระกริ่งจปร 2513 วัดราชบพิธ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ส่งเสกพระราชดำเนินประกอบพิธีพุทธาภิเษกด้วยพระองค์เองถึงสามครั้งสามคราวน์ด้วยกันทรงเททองผสมกับชนวนโลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่าๆของวัดราชบพิธร่วมกับแผ่นยันต์ลงอักขระของพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ พุทธาคมจากทั่วประเทศ 108 ลูกในวัตถุมงคลพระเครื่องทั้งเนื้อนวโลหะและเนื้อทองแดงโดยทั่วถึงกันอย่างพิถีพิถัน พิธีมหาพุทธาภิเษก 3 วัน 3 คืนโดยพระคณาจารย์ 108 รูปซึ่งล้วนแต่มีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านพุทธคุณในยุคนั้นทั้งสิ้นที่รับกิจนิมนต์มานั่งปรกบริกรรมเจริญภาวนาโดยผลัดเปลี

พระกริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ กรุงเทพ

พระกริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ กรุงเทพ พระกริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ :สมเด็จพระพุฒาจารย์ เสงี่ยม ได้จัดสร้างพระกริ่งตามแบบองค์พระอุปัชฌาย์ คือสมเด็จพระสังฆราช แพร พระกริ่งหลังปิ มีพุทธลักษณะประทับนั่งขัดสมาธิเพชรปางมารวิชัยพระหัตถ์ซ้ายทรงถือวชิระ ทรงคล้ายหัวปลี มีพุทธลักษณะคล้ายพระกริ่งจาตุรงค์มณีของพระมงคล ราชมุนี ซึ่งคงถอดพิมพ์ดังกล่าวมามีจำนวนสร้างมากถึง 100 องค์แสนเนื้อเดิมเป็นศรีจำปาออกนาก เมื่อกลับดำจะเป็นประกายแวววาวแบบปีกแมลงทับ มีผิวไฟติดอยู่ตามซอกประปราย พระกริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ กรุงเทพ เมื่อประกอบพิธีเททอง พระกริ่ง เสร็จสิ้นเป็นองค์พระแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์ เสงี่ยม ยังได้จัดการส่งพระกริ่งทั้งหมดนี้ไปยังพระคณาจารย์ต่างๆ เช่นหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงพ่อเนื่องวัดจุฬามณี หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ให้ทำการปลุกเสกลงเลขยันต์ที่ก้นขององค์พระกริ่งแทบทุกองค์รวมทั้งหลวงปู่ดู่ที่จารเป็นยันต์กอหญ้าด้วยแล้วจึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ ซึ่งมีพระเกจิอาจารย์เป็นจำนวนมาก เมื่อวันที่ 6 7 8 กุมภาพันธ์พศ 2508 เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน พระกริ่งหลังปิ บางส่วนที่ยังคงเหลือได้เก็บไว้ในพระอุ

เหรียญเสาร์ 5 หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี

 เหรียญเสาร์ 5 หลวงพ่อมุ่ย  วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี เหรียญเสาร์ 5 หลวงพ่อมุ่ย :หลวงพ่อมุ่ย ท่านเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่ออิ่มวัดหัวเขา หลวงพ่อได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานขั้นต้นจนสำเร็จ หมดทุกวิชาจากหลวงพ่ออิ่ม มีเรื่องเล่าว่าการฝึกขั้นพื้นฐานกับหลวงพ่ออิ่มนั้นต้องนั่งสมาธิจนลอยขึ้นจากหลุม แล้วจึงสามารถเรียนวิชาอื่นๆต่อไปได้ หลวงพ่ออิ่มเป็นพระเกจิที่ทรงคุณวิเศษ มีเรื่องเล่ากันมาปากต่อปากว่าท่านสามารถเดินตากฝนโดยไม่เปียกฝน และทำมือยาวให้หยิบกระเบื้องหลังคาโบสถ์ได้ เหรียญเสาร์ 5 หลวงพ่อมุ่ย :เมื่อหลวงพ่อมุ่ย ได้ศึกษาวิชาจนแตกฉานแล้วจากหลวงพ่ออิ่มหลวงพ่ออิ่มได้เมตตาพาท่านไปศึกษาวิชาเพิ่มเติมจากหลวงปู่ศุขได้มีบันทึกถึงเรื่องนี้จากชาวบ้านซึ่งเคยถามหลวงพ่ออิ่มหลังจากเดินทางพาหลวงพ่อมุ่ยมุ่งหน้าไปหาหลวงปู่ศุขหลายเดือนก่อนจะกลับมาไหว้หลวงพ่ออิ่มได้อะไรกลับมาบ้างหลวงพ่ออิ่มท่านตอบว่า ได้มาครึ่งเล่มแต่หลวงพ่อมุ่ย ได้มาเล่นครึ่ง ซึ่งนั่นก็บ่งบอกว่าหลวงพ่อมุ่ยท่านเก่งและ หลวงพ่อมุ่ย ยังเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออ้นอีกด้วยคือหลวงพ่ออ้นเป็นพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อมุ่ยนั่นเอง เครื่องหลวงพ่ออ้นนี้เป็นพระเกจิอาจารย์ที่

เหรียญหลวงพ่อเพชรวัดท่าถนน จังหวัดอุตรดิตถ์

เหรียญหลวงพ่อเพชรวัดท่าถนน จังหวัดอุตรดิตถ์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์ นั่นก็คือ หลวงพ่อเพชร แข่งวัดท่าถนน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย พุทธศิลปะสมัยเชียงแสนสิงห์ 1 ยุคต้น มีขนาดหน้าตักกว้าง 32 นิ้ว ความสูงจากฐานถึงยอดพระเกศ 41 นิ้ว พุทธพจน์งามตามแบบที่มือช่างหลวงในสมัยอยุธยา เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา เสียแก่พม่าชาวเมืองเกรงว่าพม่าจะเผาทำลายบ้านเมืองและวัดวาอารามดังนั้นจึงร่วมกันนำพระพุทธรูปสำคัญลงแพลอยน้ำล่องไปตามแม่น้ำ ส่วนพระองค์ใหญ่ เหรียญหลวงพ่อเพชรไม่สามารถลอยน้ำได้ก็เอาปูนมาพบไว้ให้ดูน่าเกลียดเพื่อที่จะ ใครรอดสายตาพม่านั่นเอง ในปีพศ. 2436 พระอุปัชฌาย์ร่วงเจ้าอาวาสวัดหมอนไม้พาพระลูกวัดแวะชมวัดโบราณระหว่างทางท่านได้เห็นเนินดินเป็นจอมปลวกใหญ่โดดเด่น แต่เมื่อพิจารณาลักษณะแล้วดูต่างจากจอมปลวกทั้งหลายท่านจึงเข้าไปแกะเนื้อดินส่วนยอดปรากฏเห็นพระเอกของพระพุทธรูปจึงอาราธนามายังวัดหมอนไม้นับแต่นั้นเป็นต้นมาประชาชนต่างก็เดินทางมากราบนมัสการไม่ขาดสายพระอุปชาด้วง ถึงพัฒนาไปประดิษฐานที่วัดท่าถนนเนื่องจากเป็นพระวิหารที่สวยงามมั่นคงและการเดินทางมากราบไหว้นมัสการก็สะดวกกว่าวัดหมอนไม

เหรียญหลวงพ่อผางรุ่นแรก วัดอุดมคงคาคีรีเขต จังหวัดขอนแก่น

เหรียญหลวงพ่อผางรุ่นแรก วัดอุดมคงคาคีรีเขต จังหวัดขอนแก่น  วัดอุดมคงคาคีรีเขต ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านโคก เป็นวัดป่าของหลวงพ่อผาง ซึ่งเคยเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้วแต่มีอนุสรณ์สถานที่ที่บรรจุอัฐิของท่านอยู่ในบริเวณวัด วัดนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาที่มีต้นไม้ป่าขึ้นอยู่ร่มรื่นเนื่องจากเป็นวัดที่เน้นการปฏิบัติวิปัสสนา หลวงพ่อผางเป็นพระ สุปฏิปันโน ผู้มีคุณธรรมอันเลิศคุณธรรมและปฏิปทาของท่านยังเป็นที่เคารพศรัทธาของพระพุทธศาสนิกชนไม่รู้ลืม ท่านไม่ปรารถนาลาภยศสรรเสริญ หรือติดในโลกธรรมแต่ประการใดดังคำพูดที่ท่านพูดเอาไว้ว่ามีชื่อไม่อยากให้ปรากฏ มียศไม่อยากให้ลือชามีวิชาไม่ให้เรียนยาก  เหรียญหลวงพ่อผางรุ่นแรก วัดอุดมคงคาคีรีเขต จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 24 มีนาคมพศ 2525 หลวงปู่ได้ละสังขารด้วยอาการสงบในตอนบ่าย งั้นนั่นเองสิริรวมอายุได้ 80 ปี 34 พรรษา หลวงพ่อผาง เป็น 1 ใน 10 ของพระอาจารย์มั่นภูริทัตโตที่บรรดาศิษย์และผู้เลื่อมใสและวัดวาอารามต่างๆขอความเมตตาจากท่านสร้างวัตถุมงคล พระเครื่อง ต่างๆเอาไว้ไม่ต่ำกว่า 50 รุ่นเรียนที่ท่านได้สร้างขึ้