ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ถอดรหัสอักขระศักดิ์สิทธิ์ สู่พุทธคุณอมตะ หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง

พระปิดตายันต์ยุ่งหลวงพ่อเชิญ
วัดโคกทองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


ขอขอบคุณภาพจาก:http://uauction2.uamulet.com/AuctionDetail.aspx?bid=422&qid=48516



พระปิดตายันต์ยุ่ง หลวงพ่อเชิญ
พระปิดตายันต์ยุ่ง หลวงพ่อเชิญ นับเป็นวัตถุมงคลประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมและเป็นที่แสวงหาอย่างกว้างขวางในวงการพระเครื่องไทย โดยมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับหลวงพ่อเชิญ ปุญฺญสิริ แห่งวัดโคกทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลักษณะเด่นของพระเครื่องชุดนี้คือการผสมผสานพุทธศิลป์ของ "พระปิดตา" ซึ่งหมายถึงพระพุทธรูปในปางปิดพระเนตร เข้ากับ "ยันต์ยุ่ง" อันหมายถึงอักขระเลขยันต์ที่สลับซับซ้อนพันเกี่ยวกันทั่วองค์พระ ความสนใจและการเสาะหาพระปิดตารุ่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาในพุทธคุณและบารมีของหลวงพ่อเชิญ รวมถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นของยันต์ยุ่งที่เชื่อกันว่าเปี่ยมด้วยอานุภาพ การปรากฏของพระเครื่องรุ่นนี้ในตลาดซื้อขายและเวทีการประมูลจำนวนมาก ย่อมบ่งชี้ถึงความต้องการที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากผู้ศรัทธาและนักสะสม
ชื่อเสียงของหลวงพ่อเชิญในฐานะพระเกจิอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตาและวิทยาคม เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้วัตถุมงคลที่ท่านสร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสกเป็นที่เคารพศรัทธา อิทธิวัตถุมงคลต่างๆ ที่ท่านสร้างขึ้นนั้นเชื่อกันว่ามีพุทธานุภาพสูงส่งในทุกด้านและคงความอมตะตลอดกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ยันต์ยุ่ง" ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของพระปิดตารุ่นนี้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ผู้คนให้ความสนใจและเชื่อมั่นในพุทธคุณ การผสมผสานระหว่างรูปพระปิดตาอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการสำรวมระวัง กับยันต์ยุ่งที่สื่อถึงความเข้มขลังซับซ้อนของอักขระ ยิ่งเสริมให้พระปิดตารุ่นนี้มีเอกลักษณ์และความน่าสนใจเป็นพิเศษ

หลวงพ่อเชิญ ปุญฺญสิริ: พระเถระผู้เป็นที่เคารพแห่งวัดโคกทอง

หลวงพ่อเชิญ ปุญฺญสิริ หรือ พระมงคลวราจารย์ เป็นพระเถระผู้มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาและเป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนอย่างกว้างขวาง ชีวประวัติ วัตรปฏิบัติ และการสืบทอดวิทยาคมของท่านเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้วัตถุมงคลของท่านเป็นที่ต้องการ
ก. ชีวประวัติ: ชาติภูมิ การบรรพชาอุปสมบท และเส้นทางธรรม
หลวงพ่อเชิญ มีนามเดิมว่า เชิญ กุฎีสุข เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2450 ณ บ้านดงตาล ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง 1 ท่านได้เริ่มต้นการศึกษาเบื้องต้นกับเจ้าอธิการขาบ วัดฤาไชย จนมีความรู้ความสามารถในการอ่านเขียน จากนั้นด้วยความเป็นเด็กดี ขยันหมั่นเพียร และเฉลียวฉลาด หลวงพ่อขาบจึงนำไปฝากเป็นศิษย์ของพระครูบวรสังฆกิจ (เพิ่ม) วัดโคกทอง เจ้าคณะแขวงเสนา ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2466 โดยมีหลวงพ่อเพิ่มเป็นพระอุปัชฌาย์ 1
ต่อมาท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดโคกทอง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2470 โดยมีหลวงพ่อขาบ วัดฤาไชย เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อเพิ่ม วัดโคกทอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระปลัดแจ่ม วัดโคกทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ปุญฺญสิริ"  หลวงพ่อเชิญมีความมุ่งมั่นในการศึกษาพระธรรมวินัย จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอกในปี พ.ศ. 2478  ท่านได้อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาและพัฒนาวัดโคกทองมาโดยตลอด จนกระทั่งมรณภาพอย่างสงบเมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2543 สิริอายุได้ 92 ปี 284 วัน พรรษา 73  การมีอายุยืนยาวและครองเพศบรรพชิตมาอย่างยาวนานเช่นนี้ ในหมู่ผู้ศรัทธามักมองว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงบุญบารมีและพลังจิตที่สั่งสมมา ซึ่งย่อมส่งผลต่อความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคลที่สร้างในปัจฉิมวัย

การศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรมและมีชื่อเสียง เป็นปัจจัยสำคัญที่เสริมสร้างความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ให้แก่วัตถุมงคล หลวงพ่อเชิญได้มีโอกาสศึกษาธรรมและพุทธาคมจากพระเกจิอาจารย์หลายรูป ได้แก่:
หลวงพ่อเพิ่ม วัดโคกทอง: พระอุปัชฌาย์และอาจารย์องค์แรกผู้ถ่ายทอดความรู้พื้นฐานและดูแลท่านมาตั้งแต่เยาว์วัย 
หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ: ในปี พ.ศ. 2473 หลวงพ่อเพิ่มได้พาหลวงพ่อเชิญไปฝากตัวเป็นศิษย์ แม้ในขณะนั้นหลวงพ่อกลั่นจะชราภาพมากแล้วก็ตาม 
หลวงปู่กล้าย วัดหงส์รัตนาราม: ในปี พ.ศ. 2482 เมื่อหลวงพ่อเชิญเดินทางไปรักษาอาการอาพาธทางตาที่กรุงเทพฯ ท่านได้พักที่วัดหงส์รัตนารามและได้รับการแนะนำวิชาจากหลวงปู่กล้าย
หลวงพ่อจง พุทฺธสโร วัดหน้าต่างนอก: ท่านได้ไปศึกษาด้านกรรมฐานกับหลวงพ่อจง 
นอกจากนี้ ในเอกสารบางแหล่ง (เช่น คำอธิบายสินค้าจากผู้ขาย) ยังมีการกล่าวถึงว่าหลวงพ่อเชิญเป็นศิษย์ผู้สืบทอดพุทธาคมจาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค  การได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์หลายท่าน ซึ่งแต่ละท่านก็มีชื่อเสียงและวิทยาคมที่โดดเด่นแตกต่างกันไป ย่อมทำให้หลวงพ่อเชิญได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาอันหลากหลาย อันเป็นที่มาของความเชื่อมั่นในพุทธคุณอันครอบคลุมของวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้น

หลวงพ่อเชิญได้อุทิศตนในการพัฒนาวัดโคกทองมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ช่วยงานหลวงพ่อเพิ่มในการบูรณะพัฒนาวัดเป็นเวลาหลายปี 1 ท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางสงฆ์หลายตำแหน่ง เช่น รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโคกทอง (พ.ศ. 2491) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกทอง (พ.ศ. 2492) เป็นเจ้าคณะตำบลกุฎีและเป็นพระกรรมวาจาจารย์ (พ.ศ. 2505) และเป็นพระอุปัชฌาย์ (พ.ศ. 2509)
ในด้านสมณศักดิ์ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ตามลำดับดังนี้ 1:
พ.ศ. 2474: พระสมุห์ (ฐานานุกรมของพระครูบวรสังฆกิจ (เพิ่ม))
พ.ศ. 2478: พระปลัด (ฐานานุกรมของพระครูบวรสังฆกิจ (เพิ่ม))
5 ธันวาคม พ.ศ. 2511: พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบล ชั้นตรี ที่ "พระครูวิชัยประสิทธิคุณ"
พ.ศ. 2517: พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบล ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. 2522: พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบล ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
5 ธันวาคม พ.ศ. 2539: พระราชาคณะยกที่ "พระมงคลวราจารย์" การได้รับสมณศักดิ์ที่สูงขึ้นตามลำดับ ควบคู่ไปกับการศึกษาพระธรรมวินัยจนแตกฉาน (นักธรรมชั้นเอก) และการเป็นผู้นำในการพัฒนาวัด ย่อมสะท้อนถึงคุณธรรม ความรู้ความสามารถ และการเป็นที่ยอมรับในหมู่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน ซึ่งเป็นปัจจัยเสริมบารมีและความน่าเชื่อถือในวัตถุมงคลของท่าน

หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาความรู้มากซึ่งหาได้ยากในยุคปัจจุบัน วัตถุมงคลต่างๆ ที่ท่านสร้างและปลุกเสกขึ้นนั้นเชื่อกันว่ามีพุทธานุภาพสูงส่งในทุกๆ ด้าน และจะคงความอมตะศักดิ์สิทธิ์ตลอดไป


พระปิดตายันต์ยุ่งที่สร้างโดยหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง มีหลายรุ่นและหลายเนื้อหา ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีรายละเอียดและประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ การทำความเข้าใจในรายละเอียดเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาและสะสม
 พระปิดตายันต์ยุ่ง รุ่นแรก พ.ศ. 2536
พระปิดตายันต์ยุ่ง รุ่นแรก ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2536 ถือเป็นรุ่นที่ได้รับการกล่าวถึงและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการ
การสร้างและพุทธาภิเษก: แม้รายละเอียดเกี่ยวกับพิธีพุทธาภิเษกโดยละเอียดจะไม่ปรากฏชัดเจนในข้อมูลที่รวบรวมได้ แต่พระรุ่นนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น "รุ่น 1" หรือรุ่นแรกที่สร้างในปี พ.ศ. 2536
เนื้อหา: พระรุ่นนี้มีการจัดสร้างด้วยเนื้อหาที่หลากหลาย ได้แก่:
เนื้อนวโลหะ: เป็นเนื้อที่ได้รับความนิยมและมีการกล่าวถึงบ่อยครั้ง 4 คำว่า "นวโลหะ" หมายถึงโลหะมงคล 9 ชนิด 
เนื้อสัมฤทธิ์: มีการบันทึกว่าพระรุ่นแรกปี 2536 นี้มีการสร้างด้วยเนื้อสัมฤทธิ์ด้วยเช่นกัน
เนื้อผงพุทธคุณ: นอกจากเนื้อโลหะแล้ว ยังมีการสร้างพระปิดตายันต์ยุ่งรุ่นแรกปี 2536 ด้วยเนื้อผงพุทธคุณอีกด้วย 
เนื้อทองเหลือง: มีข้อมูลระบุถึงการสร้างพระปิดตาปี 2536 ด้วยเนื้อทองเหลือง 

ลักษณะทางกายภาพ รายละเอียดยันต์ และขนาด:

คงเอกลักษณ์ของ "ยันต์ยุ่ง" คือมีเส้นยันต์สลับซับซ้อนทั่วองค์พระ

มักได้รับการบรรยายว่ามีสภาพ "พระสวยมากเดิมๆ"

ขนาดของพระรุ่น ๑ เนื้อทองเหลือง ระบุไว้ที่ 1.5 x 2 เซนติเมตร ส่วนพระปิดตายันต์ยุ่งอีกองค์ (ซึ่งอาจเป็นตัวอย่างทั่วไปของพระยันต์ยุ่ง ไม่ได้ระบุว่าเป็นของหลวงพ่อเชิญโดยตรงในบางแหล่ง) มีขนาดหน้าตักกว้าง 1.8 เซนติเมตร สูง 2.0 เซนติเมตร

โค้ดและเครื่องหมายที่เป็นที่รู้จัก:

มีการกล่าวถึง "โค้ดใต้ฐาน" ในพระปิดตายันต์ยุ่งโดยทั่วไป แต่สำหรับพระปิดตายันต์ยุ่งหลวงพ่อเชิญรุ่นปี 2536 โดยเฉพาะนั้น รายละเอียดเกี่ยวกับโค้ดที่ชัดเจน เช่น "โค้ด นะ" ยังไม่เป็นที่ยืนยันแน่ชัดจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิทั้งหมดที่มีอยู่ แม้จะเป็นหัวข้อที่นักสะสมให้ความสนใจก็ตาม 6

กล่องเดิมจากวัด: การมีกล่องเดิมจากวัดมักถูกกล่าวถึงว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระแท้และสมบูรณ์


เสน่ห์อันยั่งยืนแห่งมรดกศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเชิญ

พระปิดตายันต์ยุ่ง หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง ยังคงเป็นวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมและเป็นที่แสวงหาอย่างต่อเนื่องในหมู่ผู้ศรัทธาและนักสะสมพระเครื่อง การศึกษาชีวประวัติ วัตรปฏิบัติ และสายวิทยาคมของหลวงพ่อเชิญ 1 ประกอบกับความเข้าใจในความหมายและพุทธคุณของพระปิดตาและยันต์ยุ่ง ช่วยให้เห็นคุณค่าและความสำคัญของพระเครื่องชุดนี้ได้อย่างลึกซึ้ง

รุ่นสำคัญที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ รุ่นแรก พ.ศ. 2536 ซึ่งมีการสร้างด้วยเนื้อหาหลากหลาย เช่น นวโลหะ สัมฤทธิ์ และผงพุทธคุณ 2 รุ่นพระกรุ พ.ศ. 2532 ที่เชื่อกันว่าสร้างด้วยเนื้อนวโลหะ และรุ่น พ.ศ. 2539 พุทธคุณที่เชื่อกันว่ามีอยู่อย่างครบถ้วน ทั้งด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอุตม์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พระปิดตารุ่นนี้เป็นที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านและพิจารณาด้วยความรอบคอบในการเช่าบูชา โดยคำนึงถึงความเป็นของแท้เป็นสำคัญ

พระปิดตายันต์ยุ่ง หลวงพ่อเชิญ เป็นตัวอย่างหนึ่งของวัตถุมงคลที่เชื่อมโยงระหว่างความเชื่อดั้งเดิมกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ การสืบทอดพุทธศิลป์และวิทยาคมจากโบราณจารย์มาสู่การสร้างสรรค์ของหลวงพ่อเชิญ และการเผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ ในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาที่ไม่เสื่อมคลายในพลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์ และความปรารถนาที่จะมีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อความสุขความเจริญและความปลอดภัยในชีวิต แม้กาลเวลาจะผ่านไปนับตั้งแต่หลวงพ่อเชิญมรณภาพ แต่ความศรัทธาในบารมีของ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พระกริ่งเชียงตุง 2486 วัดสุทัศน์

พระกริ่งเชียงตุง 2486 วัดสุทัศน์ ขอบคุณภาพจาก แดน ท่าพระจันทร์ สมเด็จพระสังฆราช(แพ) องค์อมตะเถราจารย์แห่งสำนักวัดสุทัศน์เทพวราราม ซึ่งเป็นองค์ปรมาจารย์ในเรื่องการสร้างพระกริ่งแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ท่านได้สถาปนาพระกริ่งรุ่นแรก เทพโมลี พ.ศ.2441 จนถึงรุ่นสุดท้าย เชียงตุง พ.ศ.2486 รวมเวลาได้ 45 ปี

พระลือโขง กรุวัดกู่เหล็ก ลำพูน องค์แชมป์กรุ โดยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์

พระลือโขง กรุวัดกู่เหล็ก ลำพูน เครดิตภาพ: thairath.co.th พระเครื่ององค์แรกคือ พระลือโขงหรือพระฤาโขง สุดยอดพระเครื่องเมืองเหนือที่มีชื่อเสียงมาก ด้านความอลังการของ พุทธศิลป์หริภุญไชย ที่มีอิทธิพลศิลปะพม่า (พุกาม) ผสม..... พระสมเด็จอรหัง พิมพ์เล็ก หลังจาร วัดมหาธาตุ กทม. องค์คะแนน ของซุป เตาปูน. ลักษณะเป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผาขนาดเขื่อง (ใหญ่กว่าพระคง, พระลือ) องค์พระประทับนั่งปางมารวิชัยภายในซุ้มเรือนแก้ว เหนือฐานบัว 2 ชั้น พระพักตร์ ปรากฏรายละเอียด หู ตา จมูก ปาก ครบสมบูรณ์ และชัดเจน อ่อนช้อยงดงาม เหมือนแย้มยิ้ม ..... ระยะแรกที่พบพระ ในกรุ วัดกู่เหล็ก ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังวัดประตูลี้ (ที่พบพระฤา, พระเลี่ยง) ชาวถิ่นคิดว่าเป็น รูปจำลองพระนางจามเทวี จึงนิยมเรียกกันว่า "พระนางจามเทวี ซุ้มเรือนแก้ว"..... แต่จำนวนพระมีน้อยมาก เพราะถูกนักนิยมพระเจ้าถิ่นเช่าตัดตอนเก็บไว้หมด ทำให้พระไม่แพร่หลาย ไม่ค่อยมีใครได้เห็นพระแท้องค์จริงมากนัก มีแต่เสียงร่ำลือถึงความงดงามว่าเทียบเคียงกับ พระรอด..... กระทั่งราวๆปี 2511 ก็มีการค้นพบพระพิมพ์นี้จากที่เดิมอีกครั้งใหญ่ แต่คัดแล...