ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง


เหรียญหลวงปู่เอี่ยม จัดสร้างขึ้นเมื่อคณะศิษย์ของหลวงปู่ได้ขออนุญาตจัดสร้างขึ้นไว้เป็นที่ระลึก หลวงปู่ก็ได้อนุญาตให้สร้าง ลูกศิษย์ของหลวงปู่ชื่อ โกศล สิริเวชกุล หรือที่ชาวบ้านมัก เรียกกันว่า "หมอกิม" ได้ติดต่อให้นายเนียม ซึ่งเป็นช่างทองรับไปจัดทำ ซึ่งในครั้งแรกก็คือเหรียญยันต์สี่ มีด้วยกันสองเนื้อคือเนื้อทองแดงและเนื้อเงิน ด้านหลังของเหรียญยังแบ่งเป็นสองแบบคือแบบสามจุดและหลังสี่จุด จำนวนเหรียญที่สร้างประมาณ 5,000 เหรียญ เป็นเหรียญแบบสี่จุดประมาณ 4,000 เหรียญและหลังแบบ 3 จุดประมาณ 1,000 เหรียญ

นอกจากนี้ช่างยังได้ออกแบบพิเศษขึ้นมาอีกแต่มีจำนวนน้อยตามผู้สั่งทำคือเหรียญฉลุยกหน้า เนื้อทองคำและเนื้อเงิน เหรียญฉลุเนื้อทองคำ เหรียญฉลุเนื้อทองคำลงยา เหรียญแบบพิเศษนี้ริเริ่มสั่งทำโดยหมอกิม ซึ่งหมอกิมได้มอบให้ช่างทองอีกคนหนึ่ง คือช่างเจ๋ง อยู่ที่ภาษีเจริญ เป็นผู้จัดทำ เหรียญแบบพิเศษทั้ง 3 แบบนี้ได้แกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่ ดังนี้ เหรียญแบบฉลุยกหน้า ใช้แบบจากรูปถ่ายที่หลวงปู่มีผ้ารัดประคด และเหรียญฉลุทองคำทั้งแบบลงยาและไม่ลงยา ที่แกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่ ซึ่งต่อมาก็นำมาใช้เป็นแม่พิมพ์เหรียญยันต์ห้านั่นเอง ส่วนด้านหลังของเหรียญแบบฉลุทองคำทั้งสองแบบใช้แม่พิมพ์ของเหรียญยันต์สี่มาเป็นแม่พิมพ์

เหรียญหลวงปู่เอี่ยมหลังยันต์สี่นี้ได้แจกจ่ายให้แก่ผู้บริจาคเงินสมทบทุนการปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญ ของวัดหนัง ส่วนเหรียญแบบพิเศษนั้น สร้างหลังจากที่สร้างเหรียญยันต์สี่แบบธรรมดา ไม่นานนักคือหมอกิมได้นำทองคำไปให้ช่างทองคำให้เมื่อทำเสร็จ มีคนอื่นเห็นเข้าต่างก็ชอบใจจึงได้ไหว้วานให้หมอกิมจ้างช่างให้ทำให้บ้าง แต่ก็สร้างน้อยมากตามผู้สั่งทำ ส่วนมากก็เป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่แทบทั้งสิ้น เหรียญของหลวงปู่เอี่ยมหลังยันต์สี่ทั้งแบบเนื้อทองแดง เนื้อเงินและแบบพิเศษ ทุกเหรียญ การตัดขอบของเหรียญหลังจากปั๊มเหรียญเสร็จแล้ว จะตัดขอบด้วยการใช้เลื่อยฉลุตัดขอบทุกเหรียญ ที่เรามักจะเรียกกันว่า "เหรียญข้างเลื่อย" นั่นเองครับ

ส่วนเหรียญยันต์ห้านั้นสร้างต่อมาในภายหลังจากเหรียญยันต์สี่ โดยพระครูคำและพระปลัดแจ้ง ได้ไปขออนุญาตหลวงปู่ขอจัดสร้างเหรียญไว้อีกรุ่นหนึ่ง เพื่อเป็นอนุสรณ์ หลวงปู่ก็ไม่ได้ขัด พระปลัดแจ้งจึงได้ไปให้ช่างเนียมได้จัดทำให้ โดยใช้แม่พิมพ์เหรียญฉลุทองคำเป็นแม่พิมพ์ด้านหน้า ส่วนด้านหลังก็แกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่เป็นแบบยันต์ห้า สร้างจำนวนประมาณ 1,000 เหรียญ เป็นเนื้อสัมฤทธิ์ เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ได้นำไปให้หลวงปู่เสก หลังจากนั้นอีกประมาณสามเดือนหลวงปู่ก็มรณภาพลง

เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังถือเป็นเหรียญสุดยอดนิยมของพระเครื่องประเภทเหรียญ จัดอยู่ในชุดเบญจภาคีเหรียญ และมีมูลค่าราคาสูงมาก เหรียญหลวงปู่เอี่ยมมีทั้งเหรียญยันต์สี่ เหรียญฉลุทองคำ เหรียญฉลุยกหน้า และเหรียญยันต์ห้า
ที่มา:ข่าวสด

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พระลือโขง กรุวัดกู่เหล็ก ลำพูน องค์แชมป์กรุ โดยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์

เครดิตภาพ: thairath.co.th พระเครื่ององค์แรกคือ พระลือโขงหรือพระฤาโขง สุดยอดพระเครื่องเมืองเหนือที่มีชื่อเสียงมาก ด้านความอลังการของ พุทธศิลป์หริภุญไชย ที่มีอิทธิพลศิลปะพม่า (พุกาม) ผสม..... พระสมเด็จอรหัง พิมพ์เล็ก หลังจาร วัดมหาธาตุ กทม. องค์คะแนน ของซุป เตาปูน. ลักษณะเป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผาขนาดเขื่อง (ใหญ่กว่าพระคง, พระลือ) องค์พระประทับนั่งปางมารวิชัยภายในซุ้มเรือนแก้ว เหนือฐานบัว 2 ชั้น พระพักตร์ ปรากฏรายละเอียด หู ตา จมูก ปาก ครบสมบูรณ์ และชัดเจน อ่อนช้อยงดงาม เหมือนแย้มยิ้ม ..... ระยะแรกที่พบพระ ในกรุ วัดกู่เหล็ก ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังวัดประตูลี้ (ที่พบพระฤา, พระเลี่ยง) ชาวถิ่นคิดว่าเป็น รูปจำลองพระนางจามเทวี จึงนิยมเรียกกันว่า "พระนางจามเทวี ซุ้มเรือนแก้ว"..... แต่จำนวนพระมีน้อยมาก เพราะถูกนักนิยมพระเจ้าถิ่นเช่าตัดตอนเก็บไว้หมด ทำให้พระไม่แพร่หลาย ไม่ค่อยมีใครได้เห็นพระแท้องค์จริงมากนัก มีแต่เสียงร่ำลือถึงความงดงามว่าเทียบเคียงกับ พระรอด..... กระทั่งราวๆปี 2511 ก็มีการค้นพบพระพิมพ์นี้จากที่เดิมอีกครั้งใหญ่ แต่คัดแล้วได้พระสภาพสมบูรณ์เพียงแค่หลัก

พระกริ่งเชียงตุง 2486 วัดสุทัศน์

พระกริ่งเชียงตุง 2486 วัดสุทัศน์ ขอบคุณภาพจาก แดน ท่าพระจันทร์ สมเด็จพระสังฆราช(แพ) องค์อมตะเถราจารย์แห่งสำนักวัดสุทัศน์เทพวราราม ซึ่งเป็นองค์ปรมาจารย์ในเรื่องการสร้างพระกริ่งแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ท่านได้สถาปนาพระกริ่งรุ่นแรก เทพโมลี พ.ศ.2441 จนถึงรุ่นสุดท้าย เชียงตุง พ.ศ.2486 รวมเวลาได้ 45 ปี

หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน งานจิวเวลรี่ พิมพ์เหมือนจริง รุ่นพระพิจิตร

  วัตถุมงคลหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน งานจิวเวลรี่ พิมพ์เหมือนจริง หลวงพ่อเงิน บางคลาน รุ่นพระพิจิตร จัดสร้างเป็นครั้งแรก ในรูปแบบงานจิวเวลรี่เป็นความงดงามตามแบบพิมพ์ฝีมือช่างปั้นได้ละม้ายคล้าย หลวงพ่อเงิน มากที่สุดโดยเฉพาะตาลปัตรซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ของท่าน ด้านหลังพระจารึกมหายันต์ นับเงิน และยันต์หัวใจ พระไตรปิฎก ทั้งที่ได้จัดสร้างจากชนวนศักดิ์สิทธิ์ ทองคำหนัก 65 บาท เงินบริสุทธิ์หนัก 16 กิโลกรัม นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเททอง ในวันเพ็ญเดือน 12 ที่ผ่านมา ณพระอุโบสถหลวงพ่อเพชร จังหวัดพิจิตร โดยพระผู้ทรงวิทยาคมคูณ 25 รูป หลังจากนั้นได้นำไปรีดเป็นแผ่น จานมหายันต์ตาม ตำรับหลวงพ่อเงิน อาชิ ยันต์พระเจ้าห้าพระพุทธ ยันต์นะเงิน ยันต์หัวใจพระสิวลีมหาลาภเป็นต้น ทั้งนี้ทางวัดได้นำไปเป็นจำนวนจัดสร้างหลวงพ่อเงินในรูปแบบจิวเวลรี่ เนื้อทองคำขัดเงา เนื้อเงินชุบสามกษัตริย์ เนื้อเงินพ่นทรายขัดเงา เนื้อนวะแก่ทองคำ ที่สำคัญพระรุ่นนี้มีหมายเลขและโค้ดกำกับทุกองค์ ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ.อารามศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองพิจิตร 2 แห่ง คือ ที่อุโบสถวัดบางคลาน และอุโบสถหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง นับเป็นวัตถุมงคลที่งดงาม มีพุทธ

เหรียญพระมหาพุทธพิมพ์ ปี 2461 วัดไชโยวรวิหาร

เหรียญพระมหาพุทธพิมพ์ ปี 2461 วัดไชโยวรวิหาร ที่มา:คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง ราม วัชรประดิษฐ์ เหรียญพระมหาพุทธพิมพ์ ปี 2461 วัดไชโยวรวิหาร เหรียญ พระเครื่องในประเทศไทยนั้นมีการสร้างกันมากมายทั้งเหรียญพระพุทธและเหรียญ พระสงฆ์ ด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปตามเจตนารมณ์ของผู้จัดสร้าง อาทิ พระเกจิคณาจารย์จัดสร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายลูกศิษย์ลูกหา หรือเพื่อหาทุนทรัพย์บูรณปฏิสังขรณ์ศาสนวัตถุต่างๆ ฯลฯ บางทีก็เป็นฆราวาสที่สร้างถวายวัดเพื่อการต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์หลักก็คือ การสืบสานพระพุทธศาสนา เหรียญพระเครื่องจึงเกิดขึ้นมากมายมาแต่ครั้งโบราณกาลจวบจนปัจจุบัน ดังนั้นการที่จะคัดเลือกเหรียญระดับยอดนิยมจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างเช่น เหรียญพระมหาพุทธพิมพ์ วัดไชโยวรวิหาร ครับผม

พระกริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ กรุงเทพ

พระกริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ กรุงเทพ พระกริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ :สมเด็จพระพุฒาจารย์ เสงี่ยม ได้จัดสร้างพระกริ่งตามแบบองค์พระอุปัชฌาย์ คือสมเด็จพระสังฆราช แพร พระกริ่งหลังปิ มีพุทธลักษณะประทับนั่งขัดสมาธิเพชรปางมารวิชัยพระหัตถ์ซ้ายทรงถือวชิระ ทรงคล้ายหัวปลี มีพุทธลักษณะคล้ายพระกริ่งจาตุรงค์มณีของพระมงคล ราชมุนี ซึ่งคงถอดพิมพ์ดังกล่าวมามีจำนวนสร้างมากถึง 100 องค์แสนเนื้อเดิมเป็นศรีจำปาออกนาก เมื่อกลับดำจะเป็นประกายแวววาวแบบปีกแมลงทับ มีผิวไฟติดอยู่ตามซอกประปราย พระกริ่งหลังปิ วัดสุทัศน์ กรุงเทพ เมื่อประกอบพิธีเททอง พระกริ่ง เสร็จสิ้นเป็นองค์พระแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์ เสงี่ยม ยังได้จัดการส่งพระกริ่งทั้งหมดนี้ไปยังพระคณาจารย์ต่างๆ เช่นหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงพ่อเนื่องวัดจุฬามณี หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ให้ทำการปลุกเสกลงเลขยันต์ที่ก้นขององค์พระกริ่งแทบทุกองค์รวมทั้งหลวงปู่ดู่ที่จารเป็นยันต์กอหญ้าด้วยแล้วจึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกภายในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ ซึ่งมีพระเกจิอาจารย์เป็นจำนวนมาก เมื่อวันที่ 6 7 8 กุมภาพันธ์พศ 2508 เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน พระกริ่งหลังปิ บางส่วนที่ยังคงเหลือได้เก็บไว้ในพระอุ