ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หลวงปู่ ม่น วัดเนินตามาก ชลบุรี


พระครูสุจิณธรรมวิมล หรือ หลวงปู่ม่น ธัมมจิณโณ อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อ ดังวัดเนินตามาก ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี นามเดิม นายม่น นามสกุล วิญญาณ เกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ ตรงกับวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2453 โยมบิดาชื่อ มา โยมมารดาชื่อ แดง มีพี่น้องรวมกัน 3 คน คือ 1.นางเทียม เอมเปีย 2.หลวงปู่ม่น 3.นางย้อย โบราณ
ในวัยเยาว์ โยมบิดามารดา นำไปฝากเรียนกับพระที่วัดใกล้บ้าน ศึกษาอักขระสมัย เนื่องจากท่านเป็นผู้มีจิตใจอ่อน โยน โอบอ้อมอารี สนใจใฝ่เรียน มีความพยายามและอดทนเป็นเยี่ยม ทำให้พระอาจารย์ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้อย่างเต็มกำลัง จนมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น ด้านอักษร การแพทย์แผนโบราณ และการช่าง
เนื่องจากท่านเป็นบุตรชายคนเดียว จึงถือเป็นหลักของครอบครัว ขยันขันแข็ง ประกอบสัมมาอาชีพช่วยเหลือโยมบิดามารดาทำให้ครอบครัวมีฐานะมั่นคงในเวลาต่อมา มีที่นาทำกินเป็นของตนเองจำนวนพอสมควร
จนกระทั่งอายุได้ 29 ปี ท่านจึงได้ขอบรรพชาอุปสมบท ในวันเสาร์ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 ตรงกับวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2481 ณ พัทธสีมาวัดโคกเพลาะ ต.โคกเพลาะ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี

มี พระครูสังวรศีลาจารย์ วัดหลวงพรหมาวาส ต.วัดหลวง อ.พนัสนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ วัดโบสถ์ ต.วัดโบสถ์ อ.พนัสนิคม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูอาจารสุนทร วัดโคกเพลาะ ต.โคกเพลาะ อ.พนัส นิคม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางธรรมว่า "ธัมมจิณโณ"
เมื่อได้อุปสมบทแล้ว ได้พำนักที่วัดโคกเพลาะระยะหนึ่ง จึงได้ย้ายไปจำพรรษา ที่วัดเนินตามาก เริ่มศึกษาเล่าเรียนคันธุระและวิปัสสนาธุระอย่างจริงจัง เคร่งครัด ประกอบคุณงามความดีตามความเหมาะสมของเพศสมณะ ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในธรรมวินัยตั้งแต่เริ่มอุปสมบท ศึกษาปริยัติธรรม เข้าสอบนักธรรมชั้นตรี ชั้นโท ตามลำดับ มีความสามารถในการจำและสวดพระปาฏิโมกข์ได้ จนมาทำการค้นคว้าด้วยตนเอง ฝึกการปฏิบัติจิตและกัมมัฏฐาน
เพื่อหลุดพ้นอย่างจริงจังเมื่ออุปสมบทได้ 5 พรรษา จึงได้ออกธุดงค์เพื่อหาประสบการณ์ไปตามสถานที่ต่างๆ เช่น พระพุทธบาท สระบุรี วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นต้น
ท่านเล่าว่า ไปศึกษาวิชาธรรมกายกับ หลวงพ่อสด วัดปาก น้ำ (สมัยที่หลวงพ่อสดยังมีชีวิตอยู่) แต่เมื่อปฏิบัติได้ 7 วัน ท่านบอกว่าไม่ถูกกับจริต เลยขอลาไปที่อื่นต่อมาภายหลังท่านได้ฝากตนเป็นศิษย์ พระสมุห์บุญยิ่ง วิริโย ที่วัดเขาบางพระ อ.ศรีราชา รับคำแนะนำสั่งสอนในการปฏิบัติอันเป็นไปด้วยธาตุและจริตเป็นหนึ่งเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาด้านเวชกรรมจากพระสมุห์บุญยิ่งเพิ่มเติมจนมีความเชี่ยวชาญ ต่อมา พระสมุห์บุญยิ่ง ได้ชักชวนหลวงปู่ม่น ออกธุดงค์หาสถานที่ปฏิบัติวิเวก เป็นสัปปายะ จนได้พบถ้ำจักรพงศ์ บนเกาะสีชัง ทั้งอาจารย์และศิษย์จึงได้พำนักอยู่ ณ ที่นี้ จนหลวงปู่ม่นเกิดความก้าวหน้าทางจิตเป็นอย่างมาก
ปี 2490 พระอธิการกี่ เจ้าอาวาสวัดเนินตามาก ได้ลาสิกขา ทางคณะสงฆ์ และอุบาสก อุบาสิกาได้มาอาราธนานิมนต์หลวงปู่ม่น กลับไปเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัด สั่งสอนภิกษุ สามเณร และ อุบาสก อุบาสิกาสืบต่อไป เมื่อหลวงปู่ม่นเป็นเจ้าอาวาส ได้ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ทำนุบำรุงวัดเนินตามากให้เจริญรุ่งเรือง สร้างถาวรวัตถุ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิ วิหาร ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังช่วยพัฒนาท้องถิ่น ทำถนน ไฟฟ้า สร้างโรงเรียน ตั้งกองทุนมูลนิธิต่างๆ ให้การศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณร สอนนักธรรม พระนวกะ ส่งเข้าสอบนักธรรมสนามหลวงทุกปี หลวงปู่ม่นเป็นที่เคารพศรัทธาของบรรดาศิษย์ เสียสละ สร้างคุณงามความดี ให้แก่พระพุทธศาสนาและท้องถิ่น เป็นที่ยอมรับของสาธุชนทั่วไป ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่ม่นมากที่สุด คือ พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ส่วนเหรียญที่มีประสบการณ์มากที่สุด คือ "รุ่นเจริญพร" ซึ่งเป็นรุ่นที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่บูชาติดตัวมากที่สุด
ปี 2529 คณะสงฆ์ได้พิจารณาขอพระครูชั้นโทที่ พระครูสุจิณธรรมวิมล ปี 2523 หลวงปู่ม่นได้อาพาธด้วยโรคอัมพฤกษ์ เข้า รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนัสนิคม เกือบหายเป็นปกติ จึงกลับมาพักฟื้นที่วัด จนกระทั่งปี 2537 ท่านอาพาธหนักอีกครั้ง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวช กรุงเทพฯ เป็นเวลาถึง 8 เดือน จึงสามารถกลับมาอยู่วัด
หลังจากนั้น ท่านก็อาพาธเป็นๆ หายๆ เข้าออกโรงพยาบาลสมิติเวช กระทั่งมรณภาพด้วยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลสมิติเวช เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ต.ค.2541 เวลา 18.00 น. สิริอายุได้ 88 ปี 5 เดือน 24 วัน พรรษา 60

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พระกริ่งเชียงตุง 2486 วัดสุทัศน์

พระกริ่งเชียงตุง 2486 วัดสุทัศน์ ขอบคุณภาพจาก แดน ท่าพระจันทร์ สมเด็จพระสังฆราช(แพ) องค์อมตะเถราจารย์แห่งสำนักวัดสุทัศน์เทพวราราม ซึ่งเป็นองค์ปรมาจารย์ในเรื่องการสร้างพระกริ่งแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ท่านได้สถาปนาพระกริ่งรุ่นแรก เทพโมลี พ.ศ.2441 จนถึงรุ่นสุดท้าย เชียงตุง พ.ศ.2486 รวมเวลาได้ 45 ปี

พระลือโขง กรุวัดกู่เหล็ก ลำพูน องค์แชมป์กรุ โดยพรรค คูวิบูลย์ศิลป์

เครดิตภาพ: thairath.co.th พระเครื่ององค์แรกคือ พระลือโขงหรือพระฤาโขง สุดยอดพระเครื่องเมืองเหนือที่มีชื่อเสียงมาก ด้านความอลังการของ พุทธศิลป์หริภุญไชย ที่มีอิทธิพลศิลปะพม่า (พุกาม) ผสม..... พระสมเด็จอรหัง พิมพ์เล็ก หลังจาร วัดมหาธาตุ กทม. องค์คะแนน ของซุป เตาปูน. ลักษณะเป็นพระพิมพ์เนื้อดินเผาขนาดเขื่อง (ใหญ่กว่าพระคง, พระลือ) องค์พระประทับนั่งปางมารวิชัยภายในซุ้มเรือนแก้ว เหนือฐานบัว 2 ชั้น พระพักตร์ ปรากฏรายละเอียด หู ตา จมูก ปาก ครบสมบูรณ์ และชัดเจน อ่อนช้อยงดงาม เหมือนแย้มยิ้ม ..... ระยะแรกที่พบพระ ในกรุ วัดกู่เหล็ก ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังวัดประตูลี้ (ที่พบพระฤา, พระเลี่ยง) ชาวถิ่นคิดว่าเป็น รูปจำลองพระนางจามเทวี จึงนิยมเรียกกันว่า "พระนางจามเทวี ซุ้มเรือนแก้ว"..... แต่จำนวนพระมีน้อยมาก เพราะถูกนักนิยมพระเจ้าถิ่นเช่าตัดตอนเก็บไว้หมด ทำให้พระไม่แพร่หลาย ไม่ค่อยมีใครได้เห็นพระแท้องค์จริงมากนัก มีแต่เสียงร่ำลือถึงความงดงามว่าเทียบเคียงกับ พระรอด..... กระทั่งราวๆปี 2511 ก็มีการค้นพบพระพิมพ์นี้จากที่เดิมอีกครั้งใหญ่ แต่คัดแล้วได้พระสภาพสมบูรณ์เพียงแค่หลัก

หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน งานจิวเวลรี่ พิมพ์เหมือนจริง รุ่นพระพิจิตร

  วัตถุมงคลหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน งานจิวเวลรี่ พิมพ์เหมือนจริง หลวงพ่อเงิน บางคลาน รุ่นพระพิจิตร จัดสร้างเป็นครั้งแรก ในรูปแบบงานจิวเวลรี่เป็นความงดงามตามแบบพิมพ์ฝีมือช่างปั้นได้ละม้ายคล้าย หลวงพ่อเงิน มากที่สุดโดยเฉพาะตาลปัตรซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ของท่าน ด้านหลังพระจารึกมหายันต์ นับเงิน และยันต์หัวใจ พระไตรปิฎก ทั้งที่ได้จัดสร้างจากชนวนศักดิ์สิทธิ์ ทองคำหนัก 65 บาท เงินบริสุทธิ์หนัก 16 กิโลกรัม นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเททอง ในวันเพ็ญเดือน 12 ที่ผ่านมา ณพระอุโบสถหลวงพ่อเพชร จังหวัดพิจิตร โดยพระผู้ทรงวิทยาคมคูณ 25 รูป หลังจากนั้นได้นำไปรีดเป็นแผ่น จานมหายันต์ตาม ตำรับหลวงพ่อเงิน อาชิ ยันต์พระเจ้าห้าพระพุทธ ยันต์นะเงิน ยันต์หัวใจพระสิวลีมหาลาภเป็นต้น ทั้งนี้ทางวัดได้นำไปเป็นจำนวนจัดสร้างหลวงพ่อเงินในรูปแบบจิวเวลรี่ เนื้อทองคำขัดเงา เนื้อเงินชุบสามกษัตริย์ เนื้อเงินพ่นทรายขัดเงา เนื้อนวะแก่ทองคำ ที่สำคัญพระรุ่นนี้มีหมายเลขและโค้ดกำกับทุกองค์ ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ.อารามศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองพิจิตร 2 แห่ง คือ ที่อุโบสถวัดบางคลาน และอุโบสถหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง นับเป็นวัตถุมงคลที่งดงาม มีพุทธ

เหรียญพระมหาพุทธพิมพ์ ปี 2461 วัดไชโยวรวิหาร

เหรียญพระมหาพุทธพิมพ์ ปี 2461 วัดไชโยวรวิหาร ที่มา:คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง ราม วัชรประดิษฐ์ เหรียญพระมหาพุทธพิมพ์ ปี 2461 วัดไชโยวรวิหาร เหรียญ พระเครื่องในประเทศไทยนั้นมีการสร้างกันมากมายทั้งเหรียญพระพุทธและเหรียญ พระสงฆ์ ด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปตามเจตนารมณ์ของผู้จัดสร้าง อาทิ พระเกจิคณาจารย์จัดสร้างขึ้นเพื่อแจกจ่ายลูกศิษย์ลูกหา หรือเพื่อหาทุนทรัพย์บูรณปฏิสังขรณ์ศาสนวัตถุต่างๆ ฯลฯ บางทีก็เป็นฆราวาสที่สร้างถวายวัดเพื่อการต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์หลักก็คือ การสืบสานพระพุทธศาสนา เหรียญพระเครื่องจึงเกิดขึ้นมากมายมาแต่ครั้งโบราณกาลจวบจนปัจจุบัน ดังนั้นการที่จะคัดเลือกเหรียญระดับยอดนิยมจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างเช่น เหรียญพระมหาพุทธพิมพ์ วัดไชโยวรวิหาร ครับผม

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ รุ่น คูณลาภ หลวงพ่อคูณ

พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์  รุ่น คูณลาภ หลวงพ่อคูณ พระกริ่งหลวงพ่อคูณ จากคุณ สิงห์เหนือ_เขลางค์ สุดยอดแห่งพระกริ่งพระชัยวัฒน์ รุ่น คูณลาภ ที่พระเดชพระคุณพระญาณวิทยาคมเถร (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ประธานเททอง และปลุกเสกพระเครื่องเดี่ยว เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2535 ณ.วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมาพระกริ่ง หลวงพ่อคูณ