คู่มือเชิงลึก: ทำความรู้จัก "พระกริ่ง 7 รอบ วัดบวร" ที่นักสะสมต้องรู้
คำว่า "พระกริ่ง 7 รอบ วัดบวร" เป็นชื่อที่ใช้เรียกวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นในโอกาสพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 7 รอบ (84 พรรษา) ของสมเด็จพระสังฆราชแห่งวัดบวรนิเวศวิหาร อย่างไรก็ตาม ชื่อเดียวกันนี้ได้ครอบคลุมถึงพระกริ่งหลายรุ่นที่มีความสำคัญและมูลค่าแตกต่างกันอย่างมาก บทความนี้จะเจาะลึกถึงพระกริ่งที่สำคัญที่สุดสองรุ่น ได้แก่ รุ่นปี พ.ศ. 2499 และรุ่นปี พ.ศ. 2540 เพื่อช่วยให้นักสะสมและผู้ที่สนใจสามารถแยกแยะและประเมินมูลค่าได้อย่างถูกต้อง
ขอบคุณภาพจาก: https://www.thaprachan.com/
พระกริ่ง 7 รอบ ปี พ.ศ. 2499: การบรรจบกันของอาณาจักรและศาสนจักร
พระกริ่งรุ่นนี้สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 เพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสฉลองพระชนมายุครบ 7 รอบ (84 พรรษา) ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์) ผู้ซึ่งทรงเป็นพระราชอุปัชฌาจารย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9)
ความสำคัญและมูลค่าที่หาจากรุ่นอื่นไม่ได้
สิ่งที่ทำให้พระกริ่งรุ่นนี้มีมูลค่าสูงอย่างยิ่งคือการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงผนวชเป็นพระภิกษุและประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีเททองด้วยพระองค์เอง เหตุการณ์นี้ถือเป็นการบรรจบกันของประมุขแห่งอาณาจักรและประมุขแห่งศาสนจักรในพิธีเดียวกัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มูลค่าของพระกริ่งรุ่นนี้สูงกว่าพระเครื่องที่มีอายุใกล้เคียงกันหลายเท่าตัว
ลักษณะทางกายภาพและการสร้าง
กรรมวิธีการสร้าง: พระกริ่งรุ่นนี้สร้างด้วยกรรมวิธีโบราณแบบ "เทตัน" โดยเทหล่อองค์พระทั้งองค์ให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นจึงเจาะรูใต้ฐานขนาดเท่ารูดินสอเพื่อบรรจุเม็ดกริ่ง และอุดด้วยโลหะจนเรียบเนียน
จำนวนการสร้าง: มีจำนวนจำกัดเพียง 500 องค์เท่านั้น
เนื้อโลหะ: ประกอบด้วยโลหะมงคลต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนพระพุทธรูปโบราณ, ขันลงหิน, เงิน และทองคำบริสุทธิ์ เนื้อโลหะสามารถแบ่งได้เป็น "กระแสเนื้อออกแดง" และ "กระแสเนื้อออกเหลือง" โดยกระแสเนื้อออกแดงได้รับความนิยมเป็นพิเศษเพราะเชื่อว่าเป็นเนื้อที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเททองด้วยพระองค์เอง
จุดสังเกตความแท้: ใต้ฐานพระจะมีรอยเจาะขนาดเท่ารูดินสอเพื่อบรรจุเม็ดกริ่ง และที่ด้านหลังของฐานบัวคู่มีเลข "๗" ไทยเป็นตัวจมอย่างชัดเจน นอกจากนี้ผิวพระจะมีลักษณะเหลืองอมเขียวและแห้งเก่า
ขอบคุณภาพจาก:https://www.thaprachan.com/
มูลค่าในตลาด
เนื่องจากความหายากและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ไม่สามารถทำซ้ำได้ พระกริ่งรุ่นนี้จึงมีมูลค่าสูงมาก ราคาเช่าบูชาสำหรับองค์สภาพดีทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 50,000 ถึง 75,000 บาท ส่วนองค์ที่สวยสมบูรณ์และมีประวัติการชนะรางวัลจากการประกวดใหญ่อาจมีมูลค่าสูงถึง 1,000,000 บาทหรือมากกว่านั้น และผู้เชี่ยวชาญบางรายประเมินราคาสำหรับองค์ที่สมบูรณ์สูงสุดว่าเป็นระดับสิบล้านบาท
พระกริ่ง 7 รอบ ปี พ.ศ. 2540: คุณค่าทางจิตวิญญาณที่เข้าถึงได้
พระกริ่งรุ่นนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2540 เพื่อเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 7 รอบ (84 พรรษา) ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน)
ลักษณะทางกายภาพและการสร้าง
จำนวนการสร้าง: มีการสร้าง 2 เนื้อหลัก ได้แก่ เนื้อทองคำ จำนวน 2,585 องค์ และเนื้อนวโลหะ จำนวน 7,885 องค์
จุดเด่น: ความโดดเด่นของพระกริ่งรุ่นนี้คือการบรรจุเส้นพระเกศาของสมเด็จพระญาณสังวรไว้ภายในองค์พระ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอย่างยิ่งสำหรับพุทธศาสนิกชน
การตรวจสอบความแท้: มีการตอกโค้ดและหมายเลขกำกับไว้ที่ใต้ฐานพระทุกองค์ ซึ่งเป็นจุดตรวจสอบหลักสำหรับรุ่นนี้
มูลค่าในตลาด
เนื่องจากจำนวนการสร้างที่สูงกว่า ทำให้พระกริ่งรุ่นนี้มีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ารุ่นปี พ.ศ. 2499 มูลค่าสำหรับเนื้อนวโลหะโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 700 ถึง 2,500 บาท แม้ราคาจะไม่สูง แต่คุณค่าของรุ่นนี้มาจากความสำคัญทางจิตวิญญาณจากการบรรจุเส้นพระเกศาของสมเด็จพระสังฆราช
ข้อควรระวังสำหรับนักสะสม
สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาและตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนการเช่าบูชา เนื่องจากมีการเสนอขายพระกริ่ง "7 รอบ วัดบวร" ในตลาดออนไลน์ในราคาต่ำมากเพียงหลักสิบหรือหลักร้อยบาท ซึ่งวัตถุเหล่านี้มักเป็นของปลอมที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อการค้าและไม่มีคุณค่าใดๆ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือส่งพระเข้าประกวดในงานประกวดที่น่าเชื่อถือจะช่วยยืนยันความแท้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด


ความคิดเห็น