'เหรียญจักรเพชร 54' เป็นเหรียญพระเครื่องท้าวมหาพรหมธาดา ของดีพระใหม่พระใหม่น่าสะสมของวัดดอนยานนาวา เขตบางรัก กรุงเทพฯ
พระใหม่มีลักษณะทรงกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์ กลาง 3 เซนติเมตร ส่วนหน้าเหรียญเป็นรูปองค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา บรรจุชื่อที่ฐานพระรูป ว่า "ท่านท้าวมหาพรหมธาดา" มีลูกประคำ 108 ลูกล้อม รอบ มียันต์ตานกแมว ปิดท้ายอักขระขอม ทั้งสองข้าง
ด้านหลังเหรียญ มีจักรเก้าอยู่ตรงกลาง มีรัศมีรอบจักร มียันต์ตรีนิสิงเหอยู่ตรงกลางจักร พร้อมทั้งบนจักรมีอักษรไทยว่า "เหรียญจักรเพชร" บนขึ้นไปมีอุณาโลม รอบจักรมี คชสีห์ ราชสีห์และเสือ อยู่รอบจักร มีอักษรขอมโบราณ มีลูกประคำ 108 ลูกล้อมรอบ กล่าวได้ว่าเหรียญจักรเพชรคือเหรียญรูปพระพรหมธาดา
กล่าวกันว่า พระพรหมเป็นเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ถือกันว่าท่านเป็นพระผู้สร้างจักรวาลและทรงเป็นหนึ่งในตรีมูรติ ประกอบด้วยเทพเจ้าสามองค์ คือ พระพรหม พระวิษณุ พร้อมทั้งพระศิวะ
เชื่อกันว่า พระพรหมเป็นชาวสวรรค์ชั้นสูงกว่าเทวดา สถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นพรหม พร้อมทั้งเนื่องจากพระพรหมยังอยู่ในกามาวจรภพ จึงยังคงมีการเวียนว่ายตายเกิด
ชาวไทยจำนวนไม่น้อย ให้ความเลื่อมใสความเลื่อมใส 'องค์พระพรหมมหาเทพ' ด้วยมีความเชื่อว่า องค์พระพรหม สามารถบันดาลความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน สติปัญญา เมตตาโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
เมื่อเร็วๆ นี้ วัดดอนประกอบพิธีปลุกเสก"เหรียญจักรเพชร 54" ตามหลักของพระพุทธศาสนาพร้อมทั้งศาสนาพราหมณ์ นั่งปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุค
จุดเทียนชัยตามฤกษ์ โดยหลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนพระเกจิอาจารย์ 9 รูป ได้แก่ หลวงปู่หวล วัดพุธไธศวรรย์ จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม กรุงเทพฯ, พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี, พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม, พระอาจารย์ชำนาญ วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี, พระอาจารย์สมชาย วัดปริวาส กรุงเทพฯ สุดท้ายหลวงพ่อณรงค์ เจ้าอาวาส วัดบรมสถล (วัดดอนยานนาวา) กรุงเทพฯ
สำหรับ "วัดดอน" หรือ "วัดบรมสถล" เป็นวัดโบราณ ตั้งแต่ครั้งรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตน โกสินทร์
ปรากฏความตามหลักฐานดั้งเดิมว่า 'มังจันจ่าพระยาทวาย' เป็นผู้มีความเลื่อมใสสร้างขึ้น ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวทวายในสมัยนั้น
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงอนุสรณ์ ถึงความดีของมังจันจ่าพระยาทวาย ในกรณีที่ยกเมืองทวาย พร้อมทั้งชักชวนเจ้าเมืองมะริด เมืองตะนาวศรี ซึ่งเป็นฝ่ายพม่าข้าศึก ให้มาสามิภักดิ์เป็นข้าขอบขัณฑสีมาของไทย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มังจันจ่าพระยาทวาย ผู้มีความชอบ พาครอบครัวพร้อมทั้งข้าไทบริวาร อพยพมารับราชการที่พระนคร พระราช ทานที่หลวงซึ่งมีอยู่ ณ ตำบลคอกกระบือ ให้เป็นที่อยู่ของเหล่าชาวทวายที่อพยพมา เมื่อปีชวด พุทธศักราช 2335 แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เนมะโยกะยอดินหรือมังจันจ่าพระยาทวาย เป็นหัวหน้าปกครองดูแลบรรดาชาวทวายเหล่านั้น
เมื่อได้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักฐานแล้ว มังจันจ่าพระยาทวายจึงโน้มน้าว ผู้มีจิตความเลื่อมใสชาวทวาย ให้ช่วยกันขวนขวายสร้างวัดขึ้นในราวปีพุทธศักราช 2340
วัดที่สร้างขึ้นนี้ โดยเหตุที่เป็นวัดสร้างขึ้นบนภูมิภาคอันเป็นที่ดอน รอบบริเวณเป็นที่ลุ่มราบ ดังนั้นจึงปรากฏนามว่า วัดดอน
โดยที่วัดนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยความเลื่อมใสของพระยาทวาย ดังนั้น ผู้คนทั้งหลายจึงนิยมเรียกกันง่ายๆว่า 'วัดดอนทวาย'
ล่วงถึงปีพุทธศักราช 2400 ครั้งรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ผู้ทรงเป็นมหาปราชญ์ในเชิงอักษรศาสตร์ภาษา ได้ทรงพระกรุณาเปลี่ยนนามวัดที่พระยาทวาย สร้างขึ้นนี้ว่า "วัดบรมสถล" สืบมาจนถึงปัจจุบันนี้